ในการออกแบบระบบแสงสว่าง นอกเหนือจากค่าความสว่างที่ต้องได้ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานแล้ว สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงก็คือความสวยงามของบรรยากาศแสงภายใน โดยลักษณะของแสงที่ใช้ในการออกแบบมีด้วยกัน 2 ลักษณะ ดังนี้

     1.แสงทางตรง (Direct Lights) หมายถึง แสงที่เดินทางตรงจากแหล่งกำเนิดแสงไปยังจุดที่ต้องการ โดยไม่กระทบกับวัตถุหรือพื้นผิวใดๆ โดยลักษณะแสงทางตรงจะเห็นจากโคมไฟเพดาน (Ceilling Luminaries) ซึ่งจะมีลักษณะการกระจายแสงลงไปที่พื้นโดยตรง จะมีประสิทธิภาพในการส่องสว่างที่สูง เหมาะสำหรับการใช้ส่องสว่างพื้นที่กว้าง สร้างบรรยากาศให้สภาพแวดล้อมบริเวณดังกล่าวสดใสมากขึ้น แต่หากตำแหน่งการติดตั้งผิดพลาด จะทำให้สภาพแวดล้อมโดยรอบมืดเหมือนกับอุโมงค์

     2. แสงสะท้อน(Indirect Lights) หมายถึง แสงที่เดินจากแหล่งกำเนิดแสง โดยสะท้อนจากวัตถุหรือพื้นผิว ส่องสว่างไปยังพื้นที่ที่ต้องการ โดยลักษณะแสงสะท้อนจะเห็นได้จากโคมไฟติดตั้งในหลืบฝ้าเพดาน หรือ โคมไฟที่ติดตั้งบริเวณผนังห้อง การกระจายแสงของแสงสะท้อนจะขึ้นอยู่กับวัตถุหรือพื้นผิวในการสะท้อนแสง โดยแสงสะท้อนจะให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มและช่วยลดแสงจ้าที่แสงสะท้อน ทำให้แสงไม่แข็งกระด้าง แต่จะทำให้ประสิทธิภาพในการส่องสว่างต่ำ ทำให้มีความคมชัดของแสงน้อยและหากออกแบบแสงไม่ดี อาจทำให้แสงสะท้อนรบกวนบรรยากาศของแสงโดยรวมได้ เช่น แสงสะท้อนที่สว่างมากเกินไป เป็นต้น

     จะเห็นได้ว่าแสงทั้งสองประเภทสำคัญต่อการออกแบบแสงสว่าง แต่ทั้งนี้ควรออกแบบโดยคำนึงถึงสมดุลของแสง ระหว่างแสงแสงบรรยากาศ กับแสงส่องสว่างให้กับวัตถุหรือพื้นที่ที่น่าสนใจ (Accent lighting) นอกจากลักษณะของแสงแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ช่วยให้แสงภายในออกมาสวยงาม
     

     ดังนั้นการเลือกใช้โคมไฟ โคมโรงงาน โคมตะแกรง หรือ โคม พลาสติก ควรคำนึงถึงการกระจายแสงของโคมไฟ โดยแผ่นสะท้อนแสงที่ใช้ในโคมมีผลต่อการกระจายแสง และการควบคุมแสงให้ไปในทิศทางที่ต้องการ

วัสดุที่ใช้ผลิตแผ่นสะท้อนแสง

• แผ่นอลูมิเนียม
• แผ่นเหล็กพ่นสีขาว
• วัสดุอื่นที่มีการสะท้อนแสงสูง

     แต่ในปัจจุบันแผ่นสะท้อนแสงอลูมิเนียม ได้รับความนิยมมาใช้ในการผลิตโคมไฟต่างๆ เช่น โคมตะแกรง โคมโรงงาน โคมพลาสติก เนื่องจากมีความสามารถในการกระจายแสงได้สูงกว่าวัสดุอื่น และควรเลือกแผ่นสะท้อนแสง ที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม ไม่บาดตา และมีความสามารถในการกระจายแสงด้านหน้าสูง

     อะลูมิเนียมที่ใช้เป็นตัวสะท้อนของโคมประเภทนี้ด้วยกันหลายแบบและมักกำหนดคุณสมบัติของอะลูมิเนียมทางด้านแสงด้วยค่าต่าง ๆดังนั้น

สัมประสิทธิ์ตัวสะท้อนแสง เช่น 95% ก็หมายถึงเมื่อแสงกระทบลงที่อะลูมิเนียมจะมีการสะท้อนกลับของแสง 95%

สัมประสิทธิ์การกระจายแสง หมายถึงการกระจายแสงออกมาทางด้านข้างมากน้อยเพียงใด ถ้าเป็นอะลูมิเนียมที่มีความมันเหมือนกระจกจะมีค่าสัมประสิทธิ์การกระจายแสงต่ำ เพราะการกระจายแสงออกมาทางด้านข้างน้อยแสงตกกระทบลงไปก็จะสะท้อนขึ้นมา แต่ถ้าเป็นแผ่นสะท้อนแสงที่ไม่มันมาก จะทำให้แสงกระจายออกมาทางด้านข้างมากหรือมีสัมประสิทธิ์การกระจายแสงมากนั้นเอง

ทางบริษัท แสงเงิน เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัดได้ร่วมทำการศึกษามุมการพับแผ่นสะท้อนแสงอลูมิเนียมกับทาง MTEC เพื่อออกแบบแผ่นสะท้อนแสงให้มีการกระจายแสงสูงในมุม และทิศทางที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นแผ่นสะท้อนแสงของทางบริษัทจึงมีประสิทธิภาพในกระจายแสงทางด้านหน้าได้สูงสุด

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอใบเสนอราคาติดต่อคุณอ้อยฝ่ายขาย โทร/ไลน์  094-3864646